ผู้เขียนได้มีโอกาสไปดูหนังที่ลิโด้ครั้งล่าสุดก็เรื่อง Gundam OO The Movie เมื่อปี 2553 ที่ไม่มีฉายในโรงอื่น ก็ยังคงมีความประทับใจในบรรยากาศเก่าๆ ของโรงหนังแนวคลาสสิคที่หาได้ยากในสมัยนี้ อีกทั้งหนังนอกกระแส ซึ่งนับวันมีน้อยลงเรื่อยๆ เพราะว่าตั้งแต่ผู้เขียนเกิดจนจำความได้ ไล่ไปตั้งแต่หนังกลางแปลง มาเป็นโรงหนังขนาดใหญ่จอเดียว “Stand alone” อย่างพระโขนงรามา สกาล่า ลิโด ฯลฯ จนมาถึงยุคโรงหนังในห้างสรรพสินค้าที่มีหลายโรงหลากหลายเรื่องให้เลือกชมทั้งในระบบดิจิตอล หรือระบบ 3D อีกมากมาย แต่ในความทรงจำกับโรงหนังแบบ stand alone นั้นก็ยังมิเคยลางเลือนไป แต่ก็ต้องทำใจเพราะมันตายกันไปหมดแล้ว ~ ใครอยากรื้อฟื้นความหลังว่าโรงหนังสมัยเก่าเป็นยังไงดูได้ที่นี่เลย กระทู้พันทิป
จนมาถึงวันนี้ได้มีข่าวของทางสำนักจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ เจ้าของพื้นที่ จะทำการขอคืนพื้นที่โรงภาพยนตร์เก่าแก่อย่าง สกาลา-ลิโด้ โดยมีหลายกระแสที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าไม่ควรให้มีการรื้อถอนโรงภาพยนตร์สกาลา เพราะมันเป็นสถาปัตยกรรมโรงหนังเก่าแก่ที่สวยงาม และควรค่าแก่การเก็บรักษา กับกระแสวิจารณ์อื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ซึ่งล่าสุดทาง “สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ได้ชี้แจงเหตุผลผ่านทางเฟสบุ๊คเพจอย่างเป็นทางการ ใจความดังนี้
1. สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ไม่มีแผนการรื้อทุบใดๆ ทั้งสิ้น และไม่มีความประสงค์ที่จะขอคืนพื้นที่โรงภาพยนตร์สกาลาแต่อย่างใด ยังคงอยากให้ผู้เช่าประกอบการในส่วนอาคารสกาลาทั้งหมดต่อไปจนกว่าเวลาเหมาะสม แต่เนื่องจากว่า สกาลา-ลิโด้ (เป็นผู้ประกอบการรายเดียวกัน) แบกรับการขาดทุนไม่ไหว สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ได้มีการเจรจาขอให้สกาลาอยู่ต่อไป แต่ขอให้คืนเฉพาะลิโด เนื่องจากปัจจุบันสภาพพื้นที่โดยรวมของร้านค้าใต้ลิโดที่แบ่งล็อคให้เช่าเป็นร้านค้านั้นมีสภาพทรุดโทรมมาก ทำให้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย จึงจะขอกลับมาพัฒนาพื้นที่เองเมื่อสัญญาสิ้นสุด
2. สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ กำลังหารูปแบบการดำเนินการที่เหมาะสมกับสกาลา ที่ผ่านมาทางนายกสมาคมสถาปนิกสยามได้แสดงความสนใจที่จะขอใช้พื้นที่สกาลาเป็นพื้นที่แสดงกิจกรรมของสมาคม และยังมีองค์กรอื่นที่สนใจตลอดจนอีกหลายฝ่ายที่ให้ความเห็นอยากให้อนุรักษ์อาคารสกาลาไว้เพื่อพัฒนาพื้นที่ส่วนโรงภาพยนตร์ในการจัดกิจกรรมต่างๆในเชิงสร้างสรรค์และสอดคล้องกับอาคารที่เป็นอยู่
3. สัญญาเช่าของลิโดเป็นสัญญายอมความที่ผ่อนผันให้ดำเนินธุรกิจถึง 31 ธ.ค. 2559 แต่ได้ผ่อนปรนให้อยู่ต่อเนื่องมาตลอดปี 2560 ผู้เช่ามีความประสงค์ที่จะขอคืนพื้นที่ลิโด สิ้นเดือนพฤษภาคม และขอเวลาขนย้ายถึงสิ้นเดือน กรกฎาคม 2561 ซึ่งจะขอยุติการเช่าของสกาลาไปพร้อมกันด้วย
ทั้งนี้ทาง สกาลา-ลิโด้ จะขอฉายภาพยนตร์แบบฟิล์มยุคเก่า ที่รวบรวมมาจากนานาประเทศ ในเดือนเมษายน 2561 และ ภาพยนตร์แบบเงียบ (Silent film festival in Thailand) ในเดือน พฤษภาคม 2561 ซึ่งหลังจากการฉายภาพยนตร์ทั้งสองช่วงเสร็จสิ้นลง สำนักจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ พร้อมให้การช่วยเหลือผ่อนปรนค่าเช่าเพื่อช่วยประคับประคองให้ธุรกิจของผู้เช่าที่อยู่คู่กับสยามสแควร์มาตลอดครึ่งศตวรรษได้ยุติลงด้วยความเรียบร้อยเป็นลำดับต่อไป
ปล. โลกหมุนไปตลอด ธุรกิจก็ต้องมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ยุคโรงหนังในห้างก็ใช่ว่าจะอยู่ยงคงกระพัน ถ้าไม่แพ้พิษโรคดิจิตอลเสียก่อน
แหล่งข้อมูล : CU Property page
You may also like
ค้นหาข่าวสารที่คุณสนใจได้ที่นี่
เรื่องล่าสุด
- ระวัง! “Nudify” แอป AI ลบเสื้อผ้าได้ ใช้เปลื้องผ้าผู้คนจากภาพถ่าย!! 29 ธันวาคม, 2023
- หลังจาก YouTube แบน Ad Blocker หลายคน Uninstall แต่หลายคน Install เยอะขึ้น 21 พฤศจิกายน, 2023
- Apple กำลังพัฒนา Search Engine เป็นของตัวเอง จะสู้ Google ได้หรือไม่! 5 ตุลาคม, 2023
- Facebook เปิดตัวโลโก้ใหม่ เปลี่ยนจนที่ใครๆต้องร้องว้าว! 25 กันยายน, 2023
- YouTube บล็อคไม่ให้เล่นคลิปแล้ว หากใช้ Ad Blocker กีดกันโฆษณาบนเบราว์เซอร์ 18 กันยายน, 2023
Facebook Comments