10 เครื่องมือฟรี! ที่จะให้คุณทำคอนเทนต์ได้โดยง่าย และน่าสนใจ
เมื่อ Content Marketing กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำตลาดออนไลน์ หลายคนอาจมีคำถามว่า สินค้าดี มีคุณภาพ จัดโปรโมชั่นบ่อยๆ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่จะดีกว่าไหม ถ้าขายสินค้าได้ แถมยังได้ใจผู้บริโภคด้วย วันนี้เรามี 10 เครื่องมือดีๆ มาแนะนำ เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้การทำคอนเทนต์มีเนื้อหาที่น่าสนใจ ง่าย และสะดวกขึ้นจากเดิมแน่นอน ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ เป็นเครื่องมือที่ปล่อยให้ใช้ฟรี ซึ่งเราไม่ต้องลงทุนในซอฟต์แวร์ที่ราคาแพงอีกต่อไปแล้ว
1. Canva – เป็น web-base application ที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างไฟล์กราฟฟิคขึ้นมาได้เอง ผ่านเครื่องมือที่ใช้ได้ง่ายและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เช่น Text, layout และ background โดยไม่จำเป็นต้องโหลดโปรแกรมมาติดตั้งให้เสียเวลา และเสี่ยงกับมัลแวร์ หรือ ไวรัสต่างๆ อีกทั้งไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วยส่วนไฟล์ที่ได้มานั้นต้องบอกเลยว่าสามารถทดแทน Photoshop ไปได้ในระดับนึงทีเดียว แถมมีฟังก์ชั่นฟรีให้ใช้อย่างมากมาย และมีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีภาพกราฟิกที่สวยงามเรียบง่าย หรือถ้าต้องการอัพเกรดไอเทมเก๋ๆ ไปแต่งภาพเพิ่มเติม สามารถซื้อได้ราคา 1 เหรียญ หรือประมาณ 35 บาท นอกจากนี้เจ้า Canva ยังใช้งานได้ทั้งบน pc และบนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
2. QuotesCover – เครื่องมือที่สร้างคอนเทนต์ประเภท Quote หรือคำคมต่างๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจ มาพร้อมรูปภาพที่สวยงาม เหมาะกับการโพสต์บน Instagram และ Pinterest
3. Giphy – เครื่องมือสร้างภาพ GIF หรือภาพเคลื่อนไหวที่น่าตื่นตาตื่นใจ หรือจะเป็นสติกเกอร์ฟรี ได้ง่ายๆ ด้วยแอพพลิเคชั่น Giphy หรือถ้าอยากตัดคลิปจากวิดีโอก็ทำได้เช่นกัน ใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็ได้ภาพ GIF ตามที่คุณต้องการ แถมยังสามารถปรับความยาวของ .GIF ได้ยาวสุดถึง 10 วินาที และใส่แคปชั่นกำกับที่รูปได้ด้วย ใช้ได้งานทั้งบน pc และบนสมาร์ทโฟน
4. PlaceIt – เครื่องมือรีวิว หน้าเว็บไซต์สวยๆให้กับลูกค้า เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวม mockups อุปกรณ์ต่างๆ เช่น หน้าจอคอม ไอแพด และมือถือ ที่คุณสามารถลาก screenshot หรือรูปภาพของคุณ ไปวางบน mockups นั้นได้เลย ซึ่งถ้าคุณเป็นนักออกแบบ Application website หรืออื่นๆ PlaceIt อาจจะเป็นที่ที่คุณรักต่อจากนี้ เพราะคุณสามารถแสดงให้ผู้ชมของคุณได้เห็นผลิตภัณฑ์ของคุณในสถานที่จริง เหตุการณ์จริง ทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมกับการนำเสนอของคุณ
5. Recite – เป็นเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายกับเครื่องมือ QuoteCover ในข้อ 2 ที่จะช่วยให้คุณสร้าง Quote หรือคำคมต่างๆ ได้สะดวก แต่จะได้ชิ้นงานที่มีความละเอียดสูงกว่า QuoteCover อีกด้วย
6. Storify – เป็นเครื่องมือที่เอาไว้เขียนเรื่องราวต่างๆ คล้ายๆกับการเขียนบล็อก จุดเด่นของ Storify อยู่ที่การรวบรวมเรื่องราวต่างๆ บน Social Media ของคุณนำมาเล่าเป็นเรื่องราว ทั้ง Facebook, Twitter, Instagram และอื่นๆ มีวิธีการใช้งานที่ง่าย เพียงแค่ดึงโพสต์ที่น่าสนใจ มาวางลงใน Storify แล้วเขียนข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ เจ้า Storify จะช่วยลำดับเหตุการณ์และสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหลัง พร้อมแชร์ให้คนอื่นๆ ได้อ่านกันทันที
7. Visme – เว็บสร้าง Online Presentation เหมาะสำหรับมือใหม่ เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้การทำพรีเซนเทชั่นง่ายขึ้นเพราะในเว็บนี้มีกราฟิกสำเร็จรูปไว้ให้เลือกใช้และสามารถดึงออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย นอกจากจะใช้ออกแบบ Presentation แล้ว ยังสามารถใช้ทำ Infographic, Animations และ Banners ได้อีกด้วย เจ้าตัว Visme จะช่วยรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาจัดระเบียบในรูปแบบที่หลากหลายตามที่คุณต้องการ มีทั้งแบบให้ใช้ฟรี และเสียเงินกันเลยทีเดียว
8. Thinglink – เป็นเครื่องมือที่จะเปลี่ยนภาพธรรมดา ให้กลายเป็น Interactive ได้ง่ายๆ โดยผู้ใช้จะต้องสมัครสมาชิกกับเว็บไซต์หรือล็อกอินผ่าน Facebook ก็ได้ ซึ่งเจ้าตัว Thinglink มีฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้เพิ่มภาพประกอบ คำอธิบาย ลิ้งก์วิดีโอ บทความ หรืออื่นๆที่ต้องการ ลงไปในภาพได้ และเมื่อทำเสร็จแล้ว คุณก็สามารถนำไป embed ลงในเว็บไซต์ บล็อก หรือแชร์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานช่องทางการทำธุรกิจของคุณรวมไว้ด้วยกัน
9. Easel.ly – เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้าง Infographic จะเริ่มต้นด้วยต้นแบบเพียง 1 แบบหรือไม่ก็หน้าว่างๆ โดยใน Template จะสามารถ ลบ เคลื่อนย้าย Object ต่างๆบน Template ได้ และสามารถเพิ่มภาพกราฟฟิกสวยๆจาก 10 หมวดหมู่ เช่น การขนส่ง สัตว์หรือไอคอนต่าง ๆ รูปร่าง รูปทรงต่าง ๆ สามารถอัพโหลดรูปของตัวเองและปรับแต่ง เปลี่ยนสีไอเท็มต่าง ๆ ปรับแต่ง ขนาด สี ฟอนท์ ตัวอักษร ปรับแต่งรายละเอียดในภาพได้ทุกอย่าง และเมื่อทำเสร็จออกมาเป็น Infographics แล้วยังแชร์ต่อไปยังคนอื่นๆ ได้อีกด้วย
10. Portent’s Content Idea Generator – ถือเป็นเครื่องมือที่เป็นแหล่งกำเนิดไอเดียใหม่ๆในการทำคอนเทนต์เลยก็ว่าได้ เพียงแค่คุณใส่คีย์เวิร์ด หรือคำที่ต้องการลงไป ระบบก็จะประมวลผลออกมาอย่างรวดเร็ว ให้ผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดของคุณ และคุณก็นำเอาหัวข้อนั้นไปเล่นต่อเอาเอง บางทีคุณอาจจะเจอหัวข้อที่ฟังดูไม่เข้าท่า แต่บางทีมันก็ได้ผลที่น่าประทับใจเหมือนกัน มันก็ขึ้นอยู่กับ keyword ของคุณเอง แต่เจ้า Portent ยังไม่รองรับภาษาไทย ถ้าอยากรู้อะไรคงต้องใช้ภาษาอังกฤษอย่างเดียว
เป็นไงบ้างคะ กับ 10 เครื่องมือที่เราเสนอไปนั้น แม้ว่าเครื่องมือหรือเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะยังไม่รองรับภาษาไทยก็ไม่เป็นไร แต่เราก็เก็บมาใช้เป็นไอเดียได้ หรือลองเข้าไปเล่น เข้าไปใช้ดูก่อนได้ เผื่อจะเจออะไรใหม่ๆ ที่ดีกว่า เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์ช่วยให้คุณได้ไอเดียใหม่ๆและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักเขียนคอนเทนต์ได้นำเสนอคอนเทนต์ดีๆ ออกมาให้เราได้ติดตามกันต่อไปนะคะ
แหล่งข้อมูล : socialmediatoday
You may also like
ค้นหาข่าวสารที่คุณสนใจได้ที่นี่
เรื่องล่าสุด
- ระวัง! “Nudify” แอป AI ลบเสื้อผ้าได้ ใช้เปลื้องผ้าผู้คนจากภาพถ่าย!! 29 ธันวาคม, 2023
- หลังจาก YouTube แบน Ad Blocker หลายคน Uninstall แต่หลายคน Install เยอะขึ้น 21 พฤศจิกายน, 2023
- Apple กำลังพัฒนา Search Engine เป็นของตัวเอง จะสู้ Google ได้หรือไม่! 5 ตุลาคม, 2023
- Facebook เปิดตัวโลโก้ใหม่ เปลี่ยนจนที่ใครๆต้องร้องว้าว! 25 กันยายน, 2023
- YouTube บล็อคไม่ให้เล่นคลิปแล้ว หากใช้ Ad Blocker กีดกันโฆษณาบนเบราว์เซอร์ 18 กันยายน, 2023
Facebook Comments