11 เทคนิคเพิ่มลูกค้า ด้วยการปรับเว็บไซต์ให้ติด Google หน้าแรก
ต้องยอมรับว่าเจ้าพ่อ Search Engine ยักษ์ใหญ่ของโลก โดยเฉพาะสำหรับเมืองไทยที่พวกเราก็หมายถึง Google นั่นเอง เนื่องจากมากกว่า 90% ของคนไทยใช้ Google ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ และ Google นั้นใช้เป็นเครื่องมือค้นหาเพื่อค้นคว้าข้อมูลที่ทุกคนให้ความเชื่อถือมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะมันตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการทำอันดับบน Google นั้นมีอะไรบ้าง วันนี้เรามาดูกัน
1. การปรับแต่งหน้า Content เป็นสิ่งจำเป็น
หน้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาร่วมกับรูปภาพอย่างน้อย 1 รูป หรือ VDO นำเสนอนั้นสามารถทำอันดับได้ดีกว่าเว็บไซต์ที่เขียน content ที่มีแต่ตัวอักษร นั่นเป็นการเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับเนื้อหา เพราะถ้าทั้งเว็บไซต์มีแต่ตัวอักษร คนเขาเข้ามาอ่านแล้วคงไม่ประทับใจเท่าไหร่ และ Content ทีมีความยาวจะสามารถให้อันดับได้ดีกว่าเนื้อหาที่สั้น เพราะว่าด้วยความยาวของเนื้อหาทำให้มีคำค้นมากกว่า ทำให้สามารถค้นหาเจอ keyword ได้หลายคำ โดยค่าเฉลี่ยของเนื้อหาที่อยู่ในหน้าแสดงผลของ Google นั้นก็คือ 1,890 คำ
2. สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ที่มี keyword เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์คุณ
คนส่วนใหญ่นั้นจะเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ เขาจะค้นหาจากคำว่าอะไร คุณก็ควรจะเขียนเนื้อหา บทความ ที่มีคุณภาพ เขียนแล้วน่าสนใจ ลงไปในเว็บไซต์ของคุณ โดยในหน้านั้นๆ จะมีการใส่คำ และคีย์เวิร์ดที่เราต้องการให้มี เพราะยิ่งคีย์เวิร์ดนั้นมีมากเท่าไร Google ยิ่งมองว่า เว็บไซต์หน้านั้นๆ จะเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดคำนั้นมากขึ้น ยิ่งจะทำให้อันดับในการแสดงผล อยู่ต้นๆ ของผลการค้นหาใน Google แต่ระวังอย่างใส่มากจนเกินไป Google จะมองว่าคุณเข้าข่ายสแปมคีย์เวิร์ด อาจจะทำให้เว็บไซต์ของคุณนั้น หายไปจาก Google เลยก็เป็นได้
3. ใส่ keyword ลงไปในจุดที่สำคัญของหน้าเว็บไซต์
กูเกิ้ลนั้นให้ความสำคัญกับคีย์เวิร์ดที่ตำแหน่งสำคัญๆ ของหน้าเว็บไซต์ของคุณ หากคุณสามารถแทรก และใส่คีย์เวิร์ดลงไปในตำแหน่งเหล่านี้ได้ จะทำให้ Google มองว่าหน้านั้นๆ จะเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่เราใส่เข้าไปมาก โอกาสที่หน้านั้นๆ จะอยู่ในอันดับต้นๆ ก็มีมากเช่นเดียวกัน โดยตำแหน่งที่สำคัญ ได้แก่
Title : คำอธิบายตรงส่วนหัวของเว็บไซต์
URL : ชื่อของเว็บไซต์หรือชื่อหน้านั้นๆ หากเราสร้าง URL ที่มีคีย์เวิร์ดลงไปก็จะทำให้มีโอกาสมากขึ้น เช่น www.atimedesign.com/keyword
Description : คำอธิบายย่อๆ ว่าเว็บไซต์เรานั้นเกี่ยวกับอะไร เพื่อให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เรานั้นทราบได้ว่าเว็บไซต์นี้มีเนื้อหาตรงกับที่ตนเองกำลังสนใจค้นหาอยู่หรือไม่
4. คำค้นที่ลูกค้าจะค้นหา ถึงสินค้า หรือบริการของคุณ
ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ เพราะคุณต้องการหา “คำ หรือ Keyword” ที่คนเขาจะค้นหาสิ่งที่เกี่ยวกับสินค้า หรือบริการของคุณ คุณต้องเล็งเป้าหมายให้ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการขายเสื้อผ้าแฟชั่น คุณก็อาจจะได้คำใกล้เคียง หรือหลากหลายคำที่ Google นั้นจะค้นหาเจอคุณได้ อย่าง เสื้อผ้าแฟชั่นคนอ้วน เสื้อผ้าแฟชั่นคู่ ฯลฯ และเครื่องมือที่จะช่วยทำให้คุณสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดต่างๆ เหล่านี้ได้แก่
Google Keywords Planner (https://adwords.google.com/KeywordPlanner) ช่วยคุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง
Google Trends (www.google.com/trends) เครื่องมือวิเคราะห์ค่าความนิยมว่ามีคีย์เวิร์ดไหนมีคนนิยมเท่าไร
Google Analytics (www.google.com/analytics) เครื่องมือติดตามเพื่อศึกษาพฤติกรรมของคนที่มาเยี่ยมชมเว็บไซต์คุณ
5. ฺBacklink ยังคงมีความสำคัญอยู่
Backlink มีความสำคัญมากที่สุดในการทำอันดับ จากกรณีศึกษาพบว่า จำนวนของโดเมนที่ส่งลิงค์มายังหน้าเว็บไซต์นั้นๆ จะมีความสัมพันธ์ต่ออันดับมากกว่าปัจจัยอื่นๆ ทั้งหมด กล่าวคือลิงค์มากอันดับยิ่งดี แต่ต้องเป็นลิงค์ที่มีคุณภาพด้วยนะครับ อย่างคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่น แต่กลับมามี link มาจากเว็บโป๊ การพนัน พวกเว็บขยะ Search Engine ก็จะมองว่าเราทำ Spam BackLink เพราะมันดูไม่เป็นธรรมชาติ เราควรมี BackLink ที่มาจากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเว็บไซต์ของเรา ก็จะทำให้ BackLink นั้นเป็นธรรมชาติ
6. ควรใช้ Social Media กับเว็บไซต์ให้เป็นประโยชน์
การมีเว็บไซต์เพียงอย่างเดียวคงไม่พอกับการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า การมีโซเชียลมีเดียร์อย่าง Facebook, Twitter และ IG จะช่วยทำให้ Google เพิ่มคะแนน และอันดับให้เว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย เพราะด้วยความที่มีตัวตนในช่องทางอื่นๆ บนโลกโซเชียลมีเดียร์ จะช่วยทำให้คุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ดังนั้นคุณต้องมีการวางแผนให้คนอื่นๆ พูดและอ้างอิงถึงเว็บไซต์ของคุณออกไปในโซเชียลมีเดียร์ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ ที่มีคนนำไปแชร์ และบอกต่อในโซเชียลมีเดียร์เป็นจำนวนมาก ก็จะช่วยได้มากเลยทีเดียว
7. Google ให้น้ำหนักเว็บไซต์ Mobile-Friendly บนผลการค้นหาก่อน
สมัยนี้ไม่ใช่แค่มีเว็บไซต์รองรับบนมือถือเพื่อความสวยงามอย่างเดียวแล้วนะครับ เพราะ Google ทำการปรับอัลกอริทึมใหม่ ซึ่งการอัพเดทครั้งล่าสุด มีผลในช่วงเดือนพฤษภาคมของปีนี้ อัลกอริทึมใหม่ของ Google นี้จะทำให้เว็บไซต์ที่แสดงผลได้ดีบนมือถือ ไม่ว่าจะเป็นแนว Responsive Web Design หรือ Mobile Site มีผลการค้นหาที่ดีกว่าเว็บไซต์ที่ไม่เป็นมิตรกับมือถือ
8. ทำให้เว็บไซต์ของคุณโหลดไวขึ้นถ้าไม่อยากติดป้าย “Slow to load”
คนทำเว็บไซต์นั้นต้องปรับตัวในเรื่องนี้อย่างมาก นั่นคือเรื่องการโหลดช้า เพราะผลการค้นหาบนโทรศัพท์มือถือนั้นเขาจะเพิ่มป้าย “Slow to load” สำหรับเว็บที่โหลดช้า ซึ่งถ้าคนที่พัฒนาเว็บไซต์ หรือคนที่ดูแลเว็บไซต์อยู่นั้นไม่พยายามลดขนาดรูป หรือวีดีโอก็จะทำให้เว็บไซต์นั้นโหลดช้า ก็จะโดนขึ้นป้ายประจาน ซึ่งใครเห็นป้ายนี้แล้วก็คงไม่มีใครอยากเข้า
9. หมั่นดูแลเว็บไซต์ของเราอย่าให้ติดมัลแวร์
Google ได้มีการอัพเดตอัลกอริทึมสำหรับเว็บไซต์ที่ติดมัลแวร์ ซึ่งจะใช้ในการลดอันดับไปจนถึงการลบเว็บไซต์ที่มีการฝังมัลแวร์ ติดไวรัส หรือโดนแฮ็ก และมีการส่งอีเมล์ขยะออกไปที่ต่างๆ จำนวนมากออกจากอันดับการค้นหา รวมถึงเว็บไซต์ที่มีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่นมี link หรือติดแบนเนอร์เว็บพนันบอล คาสิโนออนไลน์เหล่านี้เป็นต้น
10. https จะทำให้อันดับดีขี้นมากว่า http ธรรมดา
กูเกิลทำการปรับวิธีการทำดัชนีการค้นหา โดยจะพยายามมองหา URL ที่เป็น https แทน http ก่อนเสมอ และถ้าพบว่า URL นั้นมีเนื้อหาเหมือนกันแต่ต่างกันแค่มี “S” ต่อท้าย ก็จะแสดงผลการค้นหาที่เป็น https เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งทาง Google ได้แนะนำให้เจ้าของเว็บไซต์ควรรองรับ https กันได้แล้ว และควรทำเว็บไซต์จาก URL ที่เคยเป็น http ให้กลายเป็น https
11. (AMP) อัลกอรึทึมเพื่อจัดอันดับสำหรับเว็บไซต์ความเร็วสูง
มาตรฐานแสดงผลเว็บไซต์ความเร็วสูงบนอุปกรณ์พกพาภายในชื่อ Accelerated Mobile Pages (AMP) โดย Google จะใช้มาตรฐานนี้เข้ามาใส่ในระบบค้นหา โดย AMP นั้นจะส่งผลได้อันดับการค้นหาสูงขึ้นอีกด้วย โดยคาดว่าจะมาในทิศทางเดียวกับที่กูเกิลเคยปรับอันดับของเว็บไซต์ที่รองรับการแสดงผลบนอุปกรณ์พกพาได้ดี
ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนที่จำเป็นอย่างมากในการปรับแต่งให้ช่องทางออนไลน์ และเว็บไซต์ของคุณสามารถดึงคนเข้าจาก Google ได้อย่างดี แต่อาจจะต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้เชืยวชาญด้านการพัฒนาเว็บไซต์ และหลายๆ ปัจจัยที่ Google เพิ่มเติมเข้ามา ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ผลลัพธ์ของการการค้นหา แม่นยำ และตรงกับความต้องการของผู้ค้นหามากที่สุด ซึ่งหากเว็บไซต์หรือช่องทางออนไลน์ของคุณยังไม่ได้ปรับ ก็ควรจะนำบทความนี้ไปให้กับทีมพัฒนาเว็บไซต์ปรับแต่งทีละข้อ และวัดผลดูว่า ยอดคนเข้าเว็บจาก Google เพิ่มมากขึ้นเพียงใด
You may also like
ค้นหาข่าวสารที่คุณสนใจได้ที่นี่
เรื่องล่าสุด
- ระวัง! “Nudify” แอป AI ลบเสื้อผ้าได้ ใช้เปลื้องผ้าผู้คนจากภาพถ่าย!! 29 ธันวาคม, 2023
- หลังจาก YouTube แบน Ad Blocker หลายคน Uninstall แต่หลายคน Install เยอะขึ้น 21 พฤศจิกายน, 2023
- Apple กำลังพัฒนา Search Engine เป็นของตัวเอง จะสู้ Google ได้หรือไม่! 5 ตุลาคม, 2023
- Facebook เปิดตัวโลโก้ใหม่ เปลี่ยนจนที่ใครๆต้องร้องว้าว! 25 กันยายน, 2023
- YouTube บล็อคไม่ให้เล่นคลิปแล้ว หากใช้ Ad Blocker กีดกันโฆษณาบนเบราว์เซอร์ 18 กันยายน, 2023
Facebook Comments