7 วิธีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำเว็บไซต์ด้วย WordPress
ในการสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก WordPress ถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดีเยี่ยม เพราะใช้งานง่าย สะดวกและมีความหลากหลาย มันสามารถทำอะไรต่างๆ ได้มากมาย โดยที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยความรู้ทางเทคนิคมากนักในการเริ่มต้น
ด้วยความหลากหลายของลูกเล่นต่างๆ ทั้ง Plugins (ส่วนเสริม) และ Template ที่มีให้คุณเลือกใช้มากมาย เพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นไปตามจินตนาการของคุณเอง ทำให้ WordPress ถูกนำมาใช้ในการสร้างเว็บไซต์ e-Commerce, ชุมชนออนไลน์, บล็อก, เว็บไซต์องค์กร รวมถึงเว็บไซต์ธุรกิจต่างๆ โดยในปัจจุบันจำนวนเว็บไซต์กว่า 1 ใน 4 ของโลกล้วนใช้ Platform ของ WordPress ทั้งสิ้น
วันนี้เราไม่พลาดที่จะนำเสนอ วิธีที่จะทำให้ WordPress ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. คุณภาพของ Template
สำหรับรูปแบบของเว็บไซต์ WordPress มีอยู่มากมายทั้งที่ฟรี และแบบเสียเงิน ในการเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ คุณจะต้องระมัดระวังในการเลือกรูปแบบที่เชื่อถือได้จากแหล่งที่มีอยู่ โดยรูปแบบที่เลือกควรจะมีความยืดหยุ่น และเป็นรูปแบบที่คุณจะต้องมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนโดยไม่ยุ่งยากมาก
2. โฮสติ้ง
นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ สำหรับการเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์จำเป็นต้องมองหาบริการโฮสติ้งที่มีการจัดการ WordPress เพื่อที่จะช่วยคุณดูแลเว็บไซต์ของคุณให้ทำงานได้ตลอดเวลา นอกจากนี้โฮสติ้งควรมีการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ และมีการสำรองข้อมูลไว้ด้วย
3. เลือก Plugins (ส่วนเสริม) ให้ดี
การติดตั้งปลั๊กอินมากเกินไปบนเว็บไซต์ WordPressของคุณ จะยิ่งชะลอประสิทธิภาพการทำงานบนเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น ทางที่ดีคุณควรติดตั้งเฉพาะปลั๊กอินที่คุณตั้งใจจะใช้งาน และลบส่วนที่เหลือออกไปจะดีกว่า
4. การติดตั้งเว็บไซต์
หลังจากที่คุณติดตั้ง WordPress เสร็จสิ้น ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งค่าเพื่อให้เวิร์ดเพรสทำงานได้อย่างที่คุณต้องการ โดยเฉพาะการแสดงในรูปแบบ Permalinks ด้วย ในการตั้งค่า WordPress นั้น ควรจะทำตั้งแต่การตั้งค่าเริ่มต้นเลย
5. การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ
ผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวนมากจะเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณผ่านทางโทรศัพท์มือถือของพวกเขา ดังนั้นเว็บไซต์ WordPress ของคุณต้องมีรูปแบบที่ตอบสนองต่อโทรศัพท์มือถือที่จะให้ประสบการณ์ที่ราบรื่นสำหรับผู้ใช้อีกด้วย
6. การรักษาความปลอดภัย
WordPress มาพร้อมกับคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่ดี แต่ควรมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สูงขึ้น โดยอาจจะใช้ปลั๊กอินหรือแนวทางปฏิบัติอื่นๆ เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้
7. การทำ SEO
SEO หรือ Search engine optimization คือกระบวนการที่พยายามเพิ่ม Traffic ที่มีคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณ จาก Search Enigne เพราะโดยปกติแล้วเว็บไซต์ที่ปรากฏอยู่ใน Search Engine ในลำดับแรกๆ มักจะถูกคลิ๊กบ่อยกว่าเว็บไซต์ที่อยู่ด้านล่าง หรืออยู่หน้าถัดไป
แหล่งที่มา : socialmediatoday
Facebook Comments