7 เหตุผล ถึงเวลาที่คุณต้องรีแบรนด์ได้แล้ว!
แบรนด์เปรียบเสมือนประตูหน้าด่าน ในสร้างการรับรู้ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่เมื่อคุณดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลานาน สิ่งที่คุณต้องการคือ ความท้าทาย เพื่อเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง และขยายฐานลูกค้า การรีแบรนด์จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยติดปีกธุรกิจของคุณให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น
แต่การรีแบรนด์ก็ไม่ได้ง่ายเสมอไป อีกทั้งยังไม่มีอะไรมาการันตีด้วยว่าจะสำเร็จหรือไม่ บางคนรีแบรนด์แล้วลูกค้าอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง นอกจากนี้ ถ้าว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องรีแบรนด์ การรีแบรนด์ไปก็อาจจะไม่ช่วยอะไรเลยก็ได้ ดังนั้นหากว่าคุณเริ่มคิดที่จะรีแบรนด์ คุณจะต้องคิดให้ดีก่อน วันนี้เราจึงมี 7 เหตุผล ที่แบรนด์ของคุณถึงเวลาต้องรีแบรนด์ได้แล้วมาช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1. กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์เปลี่ยนไป
สัญญาณแรกที่บอกให้รู้ว่าถึงเวลาต้องปรับแล้ว ก็คือกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนไปจากเดิม โดยเฉพาะเมื่อเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้น เพราะนั่นหมายความว่าหากยังอยู่กับที่ คุณต้องเสียโอกาสทางธุรกิจ หรือถูกคู่แข่งแซงหน้าไป การ Repositioning ของแบรนด์ใหม่ ก็คือการเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ แต่ยังจำเป็นที่จะต้องรักษาลูกค้ากลุ่มเดิมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังหวังผลในเรื่องของการเติบโตทางธุรกิจอีกด้วย
2. มีการขยายตลาดหรือมีสินค้าเพิ่มขึ้น
เมื่อทางแบรนด์เองมีสินค้าเพิ่มขึ้น มีการขยายตลาด และมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจต่างไปจากเดิม หากยังใช้แต่ของเก่า และมีระบบบริหารจัดการสินค้าที่ล้าสมัย นอกจากจะไม่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาจนฉุดรั้งการเจริญเติบโตแล้ว คนในองค์กรอาจทำงานได้ล่าช้าด้วย ดังนั้นการรีแบรนด์จึงเป็นอะไรที่ต้องนำมาใช้เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณสามารถปรับตัวอยู่ได้ นอกจากนี้การรีแบรนด์เพื่อความทันสมัยยังช่วยในเรื่องของการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ แต่คุณอาจจะต้องปรับเยอะสักหน่อย
3. ถึงเวลาโกอินเตอร์
ถ้าหากธุรกิจของคุณกำลังไปได้สวยในประเทศและมีวี่แววว่าจะสามารถตีตลาดในต่างประเทศได้ โอกาสนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีในการรีแบรนด์เพื่อช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณเป็นที่จดจำได้ในต่างประเทศ คุณอาจจะต้องศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าในต่างประเทศ คิดสโลแกนไปจนถึงการเปลี่ยนชื่อแบรนด์เพื่อให้มีความน่าสนใจมากขึ้น
4. มีธุรกิจอื่นใช้ชื่อซ้ำกับแบรนด์ของคุณ
ถือเป็นอุปสรรคอย่างยิ่ง เมื่อธุรกิจของคุณ มีชื่อเหมือนหรือมีความคล้ายคลึงกับธุรกิจอื่นๆ ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณรีบรีแบรนด์ โดยด่วน! เพื่อป้องกันการสับสนของลูกค้า และเผื่อว่าบริษัทที่มีชื่อแบรนด์ คล้ายกับบริษัทคุณ เขามีชื่อและภาพลักษณ์ที่ดีกว่า จนทำให้คุณอาจถูกมองได้ว่าก๊อปปี้แบรนด์ก็เป็นได้
5. เริ่มเห็นสัญญาณ Disrupt ขยับเข้ามาใกล้
ปัจจุบัน Disrupt กลายเป็นคำที่ใช้กันอย่างกว้างขวางและอธิบายถึง ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งทางเทคโนโลยี และ Trend รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภค โดยผู้บริหารของแบรนด์ที่มีวิสัยทัศน์ สังเกตเห็นสัญญาณนี้ได้เร็วและเดินหน้าปรับ Look อย่างไม่ลังเล ต่างจากเหล่าแบรนด์ที่ชะล่าใจ คิดผิดว่าคงไม่มีผลกระทบอะไร แต่ตามจริงแล้วตรงกันข้าม จนท้ายที่สุด ทั้งตัวแบรนด์และองค์กรกลายเป็นอดีต
6. เพื่อไม่ให้เป็นประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม
ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาเร็วแบบยกกำลัง เราจึงได้เห็นของตกรุ่นเร็วขึ้น ดังนั้นถ้าไม่อยากกลายเป็นแบรนด์เก่าที่ถูกลืมจึงต้องพัฒนาแบรนด์ของคุณไม่ให้ถูกลืมด้วย สามารถทำได้หลากหลาย ทั้งเปลี่ยน Logo หรือเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจไปเลย แต่ในขณะเดียวกันก็ควรคง Brand Identify ของเราเอาไว้ด้วย เพื่อให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงความเชื่อมโยงกับจุดเริ่มต้นของแบรนด์ด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนไปจนจำไม่ได้เลย
7. เปลี่ยน CEO ก็ต้องเปลี่ยนแบรนด์
เมื่อผู้นำเปลี่ยนไปในธุรกิจ แนวคิดการดำเนินธุรกิจก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ยิ่งในบริษัทใหญ่ๆ ที่มักจะการสลับปรับเปลี่ยน โยกย้าย CEO ทำให้แนวคิด วิธีการทำงานไปจนถึงวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน รวมทั้งการรีแบรนด์ด้วย ซึ่งมักจะเห็นกันอยู่บ่อยๆ ในแบรนด์ดังๆ
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงจากวิถีการทำงานเดิมย่อมกระทบผู้คนในองค์กร แต่ก็เป็นหน้าที่ของผู้นำที่ต้องชี้แจงว่าทำไมถึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลงนั้นจะส่งผลดีต่อองค์กร ต่อลูกค้าอย่างไร เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย และกระบวนการรีแบรนด์ ไม่ได้เป็นแค่ภาระหน้าที่ของแผนกการตลาดแผนกเดียว แต่มันคือภารกิจของคนทั้งบริษัท
You may also like
ค้นหาข่าวสารที่คุณสนใจได้ที่นี่
เรื่องล่าสุด
- ระวัง! “Nudify” แอป AI ลบเสื้อผ้าได้ ใช้เปลื้องผ้าผู้คนจากภาพถ่าย!! 29 ธันวาคม, 2023
- หลังจาก YouTube แบน Ad Blocker หลายคน Uninstall แต่หลายคน Install เยอะขึ้น 21 พฤศจิกายน, 2023
- Apple กำลังพัฒนา Search Engine เป็นของตัวเอง จะสู้ Google ได้หรือไม่! 5 ตุลาคม, 2023
- Facebook เปิดตัวโลโก้ใหม่ เปลี่ยนจนที่ใครๆต้องร้องว้าว! 25 กันยายน, 2023
- YouTube บล็อคไม่ให้เล่นคลิปแล้ว หากใช้ Ad Blocker กีดกันโฆษณาบนเบราว์เซอร์ 18 กันยายน, 2023
Facebook Comments