เมื่อพูดถึงโฆษณา สิ่งแรกๆที่คนจะนึกถึงก็คือความน่ารำคาญ และไม่เพียงแต่ผู้ใช้งานเท่านั้นที่เบื่อกับปัญหาโฆษณาที่น่ารำคาญระหว่างการเปิดเว็บไซต์ หรือการดู youtube ต่างๆ ผู้ให้บริการเว็บเสิร์ชเอ็นจิ้นรายใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Google ก็มีปัญหากับเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
ซึ่งทาง Google เองก็ได้แก้ปัญหาโดยการเพิ่มฟีเจอร์ AutoBlock เพื่อใช้ในการบล็อกโฆษณาที่ไม่ได้มาตราฐานบนเบราเซอร์ Chrome และอาจจะบล็อกโฆษณาทุกตัวบนเว็บไซต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่มาจากการเสริช Google หรือ Google เป็นผู้ให้บริการด้านโฆษณาก็ตาม โดยระบบดังกล่าวจะอ้างอิงกับมาตรฐานการโฆษณาที่ Google กำหนดไว้ก่อนหน้านี้
สำหรับประเภทของโฆษณาที่อาจจะถูกบล็อกนั้น มีหลายประเภท ได้แก่ ป๊อปอัป, วิดีโอแบบออโตเพลย์, และโฆษณาแบบ Pre-stitial หรือก็คือโฆษณาที่บังคับให้ผู้ชมต้องดู และนับเวลาเคาท์ดาวน์ไปเรื่อย ๆ เมื่อหมดเวลาตามที่กำหนดจึงจะได้เห็นคอนเทนต์ในหน้าเพจ ซึ่งในจุดนี้ ต้องบอกว่าโฆษณาหลาย ๆ ชนิดดังที่กล่าวมา เป็นตัวสร้างรายได้ของ Publishers เลยทีเดียว
แต่ทาง Google ก็ยืนยันว่าต้องการสร้างประสบการณ์ในการเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง รวมไปถึงประสบการณ์การค้นหาข้อมูลที่ทำได้อย่างราบรื่น แต่เนื่องจากโฆษณาป็อบอัพถือเป็นสิ่งที่น่ารำคาญต่อการใช้งานในอินเตอร์เน็ตและยังก่อให้เกิดความเสี่ยง
โดยระบบ AutoBlock จะเริ่มเปิดใช้งานอย่างจริงจังในช่วงปี 2018 ที่จะถึงนี้ รวมไปถึงผู้พัฒนาเบราเซอร์รายอื่น ๆ ก็มีคุณสมบัติบล็อกโฆษณาเช่นเดียวกัน เพียงแต่บริษัทเหล่านั้นไม่ได้เป็นบริษัทโฆษณาอย่างที่ Google กำลังเป็นอยู่เท่านั้นเอง
Credit : campaignlive
Facebook Comments