Content แบบไหนที่กระตุ้นให้ผู้คนอยากบริจาคเงินมากที่สุด?
นอกจากการส่งอีเมลแจ้งข่าวสารทั่วไปเพื่อเป็นการทำประชาสัมพันธ์แล้ว การมีคอนเทนต์ก็ยังสามารถช่วยให้องค์กรของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของภาครัฐ เอกชน หรือองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรก็ตาม โดยล่าสุด Abila ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ จำนวน 1,136 คน ที่ได้ทำการบริจาคเงินให้องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้บริจาคเงินให้แก่องค์กรต่างๆ และคอนเทนต์แบบไหนที่กระตุ้นทำให้อยากบริจาคเงินมากที่สุด
ซึ่งผลสำรวจระบุว่า 72% ของผู้บริจาคบอกว่าเนื้อหาไม่ดีมีผลต่อการตัดสินใจไม่ว่าจะบริจาคให้กับองค์กรใดก็ตาม ในขณะที่อีก 35% บอกว่าเป็นเรื่องความคลุมเครือไม่โปร่งใสขององค์กรฯ และอีก 25% บอกว่ามีข้อมูล และรายละเอียดไม่น่าสนใจ ส่วน 24% ที่เหลือบอกว่าคอนเทนต์ที่นำเสนอน่าเบื่อเกินไป ผู้บริจาคส่วนใหญ่กล่าวว่าพวกเขาเริ่มที่จะสูญเสียความอดทนที่มีต่อเนื้อหาที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่จะได้รับอีกต่อไป
กลุ่มสำรวจส่วนใหญ่ต้องการอีเมลที่แจ้งรายละเอียดครบถ้วน โดยที่ไม่ยาวเกินไป ต้องสั้น กระชับ และต้องไม่มีลิ้งก์ต่างๆ ตามมาด้วย คอนเทนต์ประเภทบทความ ความยาว 2-3 ย่อหน้าเท่านั้น หรือเป็นวิดีโอต้องไม่เกิน 2 นาที และในส่วนของ Social Media การโพสต์ผ่าน Facebook จะดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ 53% และ Twitter 37%
ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการอ่านอะไรยาวๆ หรือดูอะไรนานๆ จากภาพด้านล่างจะเห็นว่าวิดีโอที่มีความยาวตั้งแต่ 0-2 นาที ยังได้รับความสนใจจากผู้ชมอยู่ แต่ถ้านานกว่านั้นผู้ชมจะเริ่มเสียสมาธิ และไม่ดูต่อ คอนเทนต์ประเภทบทความเองก็เช่นกัน ถ้ายาวกว่า 3 ย่อหน้า ผู้อ่านจะค่อยๆ หมดความอดทนไป เพราะฉะนั้นคอนเทนต์ทั้งสองประเภทนี้ต้องสั้น กระชับ และเข้าใจง่ายไว้ก่อน
รายงานนี้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลจากการสำรวจของ 1,136 คนในประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกกลุ่มอายุที่บริจาคเงินให้แก่องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรอย่างน้อยหนึ่งที่ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมานี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม คอนเทนต์ที่เหมาะสมต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และเป้าหมายของแบรนด์หรือองค์กรด้วย
แหล่งข้อมูล : marketingprofs
Facebook Comments