รวม 13 เทคนิค ที่จะทำให้มีคนเยี่ยมชมเว็บไซต์คุณมากขึ้น!!
อย่างที่รู้กันว่าเว็บไซต์นั้นจะช่วยในการเพิ่มเสริมศักยภาพของธุรกิจของคุณ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ง่ายมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรของคุณ แต่การมีเว็บไซต์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มี เมื่อธุรกิจก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เว็บไซต์เองก็ต้องก้าวตามเสมอ ยิ่งโลกพัฒนาไปเร็ว เราก็ยิ่งต้องก้าวตามให้ทัน
แถม Platform ของ Social Media นั้นกลายเป็นเครื่องมือที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะเนื่องจากเป็น Platform ที่คนอื่นนั้นเป็นเจ้าของ และจะปรับเปลี่ยนรูปแบบ Platform อย่างไรก็ได้ วันนี้เราจึงมาบอกถึงเทคนิคในการปรับปรุบเว็บไซต์ของคุณ เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ให้ก้าวทันเทคโนโลยีและมีคนเยี่ยมชมเว็บไซต์คุณมากขึ้น มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. ออกแบบเว็บไซต์ให้น่าสนใจ โดยเฉพาะหน้าแรก
หน้าแรกของเว็บไซต์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก หากเว็บไซต์คุณไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีอะไรที่ดึงดูดได้ ตั้งแต่เปิดมาไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือมีการเพิ่มเติมข้อมูลลงไปในเว็บไซต์เลย เมื่อมีลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณแล้วพบว่าข้อมูลเว็บไซต์คุณไม่เปลี่ยนแปลงเลย ก็ทำให้เค้าไม่อยากกลับมาอีก ฉะนั้นควรทำให้หน้าแรกนั้นดูง่ายและสะอาดมากที่สุด ใส่ข้อมูลที่สำคัญที่สุด เอาให้เข้าใจได้ทันที และเอาเนื้อหาสำคัญที่คนกำลังมองหาไว้ในตำแหน่งที่เจอง่าย ๆ ไม่ควรยัดเยียดอะไรลงไปเยอะๆ
2. ทำเว็บไซต์รองรับทุกขนาดหน้าจอ
การที่คุณมีเว็บไซต์ที่รองรับทุกขนาดหน้าจอถือว่าได้เปรียบ เพราะในปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่หันมาใช้กันแต่สมาร์ทโฟน, แทบเล็ต ทำให้การเปิดดูเว็บไวต์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ซึ่งถ้าหากเว็บไซต์ของคุณไม่รองรับหน้าจอมือถือ หรือแท็บเล็ตแล้วล่ะก็ คนที่เข้ามาดูเว็บไซต์ของคุณอาจจะเบื่อการเลื่อนดูยากๆและปิดไปเลยก็ได้ ดังนั้นควรจะพัฒนาให็เว็บไซต์รองรับทุกขนาดหน้าจอ สามารถดูได้จากหลากหลายอุปกรณ์ ไม่ใช่ดูได้แค่จากจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียว
3. อย่าปล่อยให้มีลิงค์เสีย
หากเว็บไซต์ของคุณมีการแทรกลิงก์ต่าง ๆ หรือเอาลิงก์ของ Website ไปฝากไว้ตามที่ต่าง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เช่นการอัพเดทระบบ การที่เอาสินต้า ถอดเข้า ถอดออก ทำให้ลิงก์ต่าง ๆ ที่เว็บไซต์เคยทำไว้นั้นอาจจะใช้งานไม่ได้ หรือไม่มีการแสดงผลอีกต่อไป ทำให้คนที่เข้าที่เว็บไซต์นั้นรู้สึกไม่มีอะไร หรือรู้สึกเสียเวลาแล้วจะคิดว่า Website นี้ไม่ได้มีความใส่ใจในการดูแลเนื้อหาอีกด้วย ควรจะตรวจดูว่าลิงก์ต่าง ๆ นั้นเชื่อมโยงไปสู่ที่ไหน ถ้าลิงก์ไหนใช้การไม่ได้ หรือไม่มีสินค้า แล้วทำการแก้ไขลิงก์เหล่านั้นโดยการนำมาสู่หน้าสินค้าใกล้เคียงกันหรือเนื้อหาใกล้เคียงกันที่จะช่วยกลุ่มเป้าหมายได้ขึ้นมา แทนที่จะปล่อยให้เข้าไม่ได้ตามเดิมแล้วเสียลูกค้าไป
4. ยิ่งเว็บไซต์โหลดเร็วยิ่งดี
ความเร็วเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง การที่เว็บไซต์ของคุณโหลดหน้าเร็วกว่าก็มักจะมีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ ที่จะได้ visitor โอกาสของ Traffic และผลทาง SEO ในอันดับที่ดีอีกด้วย ซึ่งเว็บไซต์ที่ดีควรจะมีเวลาโหลดหน้าเว็บไซต์อยู่ที่ 2-4 วินาที และเมื่อขึ้นมากกว่านี้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้คนหนีจากเว็บไซต์เพิ่มขึ้น จากการศึกษาพบว่าถ้าดีเลย์ 2 วินาทีจะทำให้คนออกจากเว็บไซต์ถึง 87%
5. เพิ่มช่อง Search เพื่อง่ายต่อการค้นหา
การมีช่อง Search นั้นช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเรื่องราวที่กำลังสนใจได้ต่อหรือสามารถหาเรื่องที่สนใจได้ทันที แทนที่จะมาไล่หาตามเว็บไซต์เอาเอง หรือต้อง inbox, live chat หรือ email มาถามทีมงานเอาเอง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลา
6. ไม่ควรใส่อะไรที่ไม่จำเป็น
การที่เราใส่อะไรต่างๆ มากมายที่ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว ทั้งการมีโครงสร้างต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นต่าง ๆ ขึ้นมา ทำให้ประสิทธิภาพของเว็บไซต์นั้นไม่ดี และทำให้เว็บไซต์นั้นมีความยากในการใช้งานเนื่องจากอะไรที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ทำให้ข้อมูลที่จำเป็นหายากมากขึ้นไปอีก แถมจะทำให้ดูรกไม่สวสยงามอีกด้วย ควรทำให้มันอ่านได้ง่ายขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากพยายามอ่านเนื้อหาที่มันมีความยากในการอ่านกัน. You should choose the best répliques de montres Rolex suisses from the online store.
7. รูปและวิดีโอช่วยดึงดูด
รูปและวิดีโอยังดึงดูดใจเสมอ เพราะช่วยให้ผู้เข้าชมอยู่บนเว็บไซต์ได้นานขึ้น และถ้าการใช้รูปภาพจริงจะยิ่งช่วยให้ดึงดูดมากขึ้น เพราะรูปที่ถ่ายจริงและมีความเป็นธรรมชาติสูง จะดึงดูดใจลูกค้าได้ดีกว่านั่นเอง ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะภาพถ่ายจริงมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใครและไม่เคยเผยแพร่ให้เห็นที่ไหนมาก่อน แต่สิ่งที่ควรระวังในการใช้วิดีโอ คือไม่ควรตั้งค่าให้เล่นแบบอัตโนมัติ เพราะจะเป็นการรบกวนผู้เข้าชมเว็บไซต์นั่นเอง
8. มีคอนแทคที่ติดต่อง่าย ชัดเจน
ปัญหาคลาสสิกที่เจอคือการที่เมื่ออยากจะติดต่อเว็บไซต์ หรืออยากจะคุยในรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม กลับไม่มีอะไรให้ติดต่อ นอกจากกล่องข้อความ แต่หลาย ๆ คนอยากจะติดต่อผ่านทางอีเมล์ ที่อยู่จริง ๆ หรือโทรสอบถามยากมีความเร่งด่วน ซึ่งนี้จะช่วยให้ได้ผู้บริโภคที่กำลังสนใจในทันทีที่ง่ายขึ้น
9. ใช้ Keyword ให้ตรงเป้าหมาย
Keyword นั้นเรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์นั้นเจอหรือไม่เจอบนหน้า Google Search เลย หรือทำให้เกิดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายขึ้นมาได้ ถ้า Keyword เหล่านั้นตรงใจกับคนที่กำลังค้นหาหรือกำลังต้องการคำตอบอะไรบางอย่างขึ้นมา นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเรื่อง SEO ของเว็บไซต์ด้วยให้เข้าไปติดอันดับบน Google Search ขึ้นมาได้ ควรจะทำการบ้านเรื่อง Keyword ใน Google Adwords ว่าคนกำลังสนใจอะไร และอยากได้อะไรบน Google แล้วเอา Keyword เหล่านั้นมาปั้นบทความหรือเนื้อหาบนเว็บไซต์ต่อมา เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งเรื่อง SEO และเรื่องความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย
10. โปรโมทเว็บไซต์ของคุณบ้าง
การโปรโมทเว็บไซต์ เป็นกระบวนการที่ทำให้เว็บไซต์ หรือชื่อเว็บไซต์ ปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดของผลการค้นหาผ่าน Search Engine ด้วย Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ข้อมูล เนื้อหา บทความ สินค้า และบริการที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์ของเรา โดยรักษาให้อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเสมอ แต่ถ้าคุณมีเว็บไซต์แล้วไม่เคยโปรโมท หรือไม่ติดอันดับบน Google เลยก็ไม่มีประโยชน์อะไร
11. ไม่ละเลยการสื่อสารในช่องทางอื่น
เพราะยุคที่ผู้คนใช้อินเตอร์เน็ตเสพย์คอนเทนต์ผ่านมือถือกันหมดแล้ว ยิ่งเฉพาะคนไทยที่เฉลี่ยแล้วมีสมาร์ทดีไวซ์มากกว่าหนึ่งเครื่อง ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของเราและหาข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ใช่แค่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ฉะนั้นการโต้ตอบกับคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ได้ทันเวลา แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วก็จะทำให้ธุรกิจของเราได้เปรียบ
12. อย่าปล่อยให้เว็บไซต์ของคู่แข่งน่าสนใจกว่า
บางครั้งหลายคนอาจจะรู้จักเว็บไซต์ของคุณ แต่เค้าพบว่าเว็บไซต์ของคุณแข่งคุณ ดูน่าสนใจกว่า และสามารถตอบสนองความต้องการได้มากกว่าเว็บไซต์คุณ เพียงแค่นี้ ลูกค้าก็จะไม่เข้าเว็บไซต์คุณและหันไปเข้าเว็บไซต์ของคู่แข่งคุณแทน ทางที่ดีคุณควรศึกษาคู่แข่งของคุณว่าเค้ามีจุดเด่น หรือจุดไหนที่เหนือกว่าและน่าสนใจกว่าเว็บของคุณ คุณก็ปรับเว็บไซต์ให้มีลักษณะเดียวกัน แต่ต้องพยายามทำอะไรให้มากกว่า เหนือกว่า เจ๋งกว่าที่คู่แข่งคุณมี เมื่อทำเสร็จแล้วก็ควรประชาสัมพันธ์ด้วยก็ดี เพื่อเค้าจะได้รู้ว่าเว็บไวต์ของคุณก็มีดีเหมือนกัน
13. ใช้ Call to action ให้ดี
หลาย ๆ ครั้งดีไซน์เนอร์ในประเทศไทยไม่ได้เป็น Copy Writer หรือไม่ได้เชี่ยวชาญในการใช้คำต่าง ๆ ทำให้มักจะใช้ค่า Default ภาษาของการออกแบบ แต่การสร้าง Call to action ทำให้สามารถทำให้ผู้ใช้รู้ตัวว่าจะต้องทำอะไรต่อ รวมทั้งการใช้สีก็สามารถกระตุ้นความคิดในการที่จะปฏิสัมพันธ์หรือไม่ก็ได้ด้วย
You may also like
ค้นหาข่าวสารที่คุณสนใจได้ที่นี่
เรื่องล่าสุด
- ระวัง! “Nudify” แอป AI ลบเสื้อผ้าได้ ใช้เปลื้องผ้าผู้คนจากภาพถ่าย!! 29 ธันวาคม, 2023
- หลังจาก YouTube แบน Ad Blocker หลายคน Uninstall แต่หลายคน Install เยอะขึ้น 21 พฤศจิกายน, 2023
- Apple กำลังพัฒนา Search Engine เป็นของตัวเอง จะสู้ Google ได้หรือไม่! 5 ตุลาคม, 2023
- Facebook เปิดตัวโลโก้ใหม่ เปลี่ยนจนที่ใครๆต้องร้องว้าว! 25 กันยายน, 2023
- YouTube บล็อคไม่ให้เล่นคลิปแล้ว หากใช้ Ad Blocker กีดกันโฆษณาบนเบราว์เซอร์ 18 กันยายน, 2023
Facebook Comments