Jack Dorsey ซีอีโอของ Twitter ประกาศนโยบายใหม่ผ่านบัญชี Twitter ของตัวเองว่า จะยุติในการเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่โฆษณาและการประชาสัมพันธ์ทางการเมืองบนแพลตฟอร์ม Twitter ไม่ว่าจะเป็นของประเทศใดก็ตาม รวมถึงแคมเปญรณรงค์ หรือขอระดมทุนจากผู้สมัครทางการเมืองด้วย โดยจะเริ่มนโยบายนี้ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป
We’ve made the decision to stop all political advertising on Twitter globally. We believe political message reach should be earned, not bought. Why? A few reasons…🧵
— jack 🌍🌏🌎 (@jack) October 30, 2019
โดย Dorsey ได้ให้เหตุผลถึงนโยบายดังกล่าวว่า การสื่อสารทางการเมืองควรจะต้องเข้าถึงประชาชนได้ด้วยตัวมันเอง ไม่ใช่มาจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณา ประชาชนควรเป็นฝ่ายเลือกติดตามนักการเมือง หรือเลือกรีทวีตข้อความเอง ไม่ใช่นักการเมืองจ่ายเงินซื้อโฆษณาเพื่อให้ข้อความของตัวเองกระจายได้ไกลขึ้น เงินไม่ควรมาเป็นปัจจัยทำให้คนเห็นข้อความไม่เท่ากัน ซึ่งตอนแรกจะปิดโฆษณาเฉพาะผู้สมัครตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็คิดว่าไม่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงตัดสินใจปิดรับโฆษณาทางการเมืองในทุกกรณีไปเลย
In an apparent swipe at Facebook, Twitter announced it will all ban political ads in its platform https://t.co/hZYJyCklJG pic.twitter.com/iEykeK4WTz
— Reuters (@Reuters) October 31, 2019
ซึ่งหลังจากนโยบายใหม่นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้มีกระแสวิพากย์วิจารณ์จากทีมงานหาเสียงเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ออกมามากมาย โดยเฉพาะจากฝั่งของประธานาธิบดี Donald Trump ที่เป็นผู้นำโลกที่ใช้ทวิตเตอร์มากที่สุด บอกว่านี่เป็นนโยบายที่งี่เง่ามาก ขณะที่ทีมงานหาเสียงของอดีตรองประธานาธิบดี Joe Biden จากพรรคเดโมแครต คู่แข่งคนสำคัญของ Trump กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก แต่ก็ยอมรับการตัดสินใจของ Dorsey
ส่วนทางด้านของ Google และ Facebook ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ทาง Twitter จะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง
Credit : reuters
Facebook Comments